วันว่างๆๆๆๆๆๆ

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การปลูกข้าวอินทรีย์ โดยวิธีการปลูกข้าวในอ่างซีเมนต์

วิธีการปลูกข้าวในอ่างซีเมนต์(บ่อส้วม)
นายธนาวัฒน์ โชคกำทอง หมอดินอาสาบ้านหนองกระโดน ตำบลบึงอ้อ อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด 24 ไร่ ทำเกษตรผสมผสาน ปลูกข้าวอินทรีย์ มันสำปะหลัง ยางพารา ปลูกไม้ผล ผักสวนครัว เลี้ยงปลา จนประสบความสำเร็จโดยเน้นแบบอินทรีย์อยู่ได้แบบพอเพียง และล่าสุดคิดวิธีการปลูกข้าวอินทรีย์ในบ่อซีเมนต์
การเตรียมเมล็ดพันธุ์
โดยนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะต้นกล้าในถาด แช่เมล็ดข้าวไว้ 2 คืน แล้วทำการดูดน้ำออก ให้สังเกตต้นข้าวจะแตกหน่อออกราก พอเพาะได้ 7 วัน ต้นกล้าข้าวจะสูง 2 นิ้ว ให้ใส่น้ำลงไปให้เห็นเฉพาะปลายข้าวที่โผล่ขึ้นมา พร้อมที่จะปลูก
การปลูกข้าวอินทรีย์ในบ่อซีเมนต์
1.การปลูกเริ่มต้น ด้วยการเตรียมท่อปูนขนาด 50x50 เซนติเมตร (บ่อส้วม)
2.ใส่ดินลงไปในบ่อให้มีความสูงขนาด 40 เซนติเมตร
3.นำดิน 1 กิโลกรัม ผสมกับปุ๋ยหมัก 1 กิโลกรัม เทลงไปบนหน้าดิน แล้วใส่น้ำให้เต็มบ่อแช่ดินไว้เพื่อกำจัดวัชพืช 15 วัน
4.เมื่อครบกำหนด 15 วัน ให้ทำการใส่ปุ๋ยคอก แล้วนำข้าวมาปักต้นกล้า โดยปักบ่อละประมาณ 7 กอ ถ้ามากกว่านี้จะทำให้แน่นไป
5.หลังจากปักดำครบ 15 วัน ให้ใส่น้ำเต็มบ่อ เพื่อให้มีความชุ่มชื้น60% และใส่ปุ๋ยคอกลงไป 1 กก./บ่อ ใส่ 15 วันต่อครั้ง
6.เมื่อต้นข้าวสูง 50-60 เซนติเมตร ข้าวจะสมบูรณ์ อยู่ในช่วงข้าวตั้งท้อง หากมีใบเหลืองให้ใส่ปุ๋ยคอก 3 ขีดต่อ 1 บ่อ ตามด้วยการฉีดน้ำหมัก พด.2 และ พด.7 เพื่อป้องกันแมลง โดยเบื้องต้นการป้องกันแมลงให้นำมะกรูดมาผ่าเป็นซีกแล้วนำไปลอยน้ำในบ่อไว้ เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของหนอน แมลง
7.ในการเก็บผลผลิตข้าว ให้เก็บรวงข้าวโดยการเด็ดชุดแรกตรงป้องแรกของรวงข้าว ต่อ 1 ต้นสามารถเก็บได้ 3รอบ โดยให้เก็บผลผลิตเมื่อข้าวเริ่มมีการตั้งท้องในปล้องที่สองของต้นข้าว หลังจากเก็บเกี่ยวรุ่นที่สามแล้ว ให้ทำการกดต้นข้าวฝังลงไปในดินในบ่อ เหมือนการไถกลบตอซังข้าวและปล่อยน้ำเข้าบ่อให้ท่วมพอดีเป็นการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเตรียมบ่อลงปลูกรอบต่อไป
ผลผลิตใน 1 บ่อต่อรอบที่เก็บจะได้ปริมาณข้าวเปลือกบ่อละ 1.8 กิโลกรัม
สูตรน้ำหมักบำรุงนาข้าว
วัตถุดิบ กล้วยสุก 5 กิโลกรัม ,มะละกอ 5 กิโลกรัม,ฟักทอง 5 กิโลกรัม สับผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับกากน้ำตาล 10 ลิตร หัวเชื้อ 5 ลิตร พด.2 1 ซอง ละลายน้ำ 150 ลิตร หมักนาน 3 เดือน อัตราส่วนในการใช้ น้ำหมัก 1 ขวดลิโพต่อน้ำ 20 ลิตร จะช่วยเร่งการเจริญเติบโต
สูตรน้ำหมักกำจัดป้องกันไล่แมลง
1.พริกสด 1 กิโลกรัม
2.กระชาย 1 กิโลกรัม
3.มะกรูดผ่าซีก 50 ผล
4.กากน้ำตาล 5 ลิตร
5.น้ำหมักหัวเชื้อ 5 ลิตร
6.น้ำส้มควันไม้ 5 ลิตร
นำส่วนผสมมาคลุกเคล้าคนให้เข้ากัน ผสมกากน้ำตาลที่ละลายกับน้ำ 20 ลิตรเอาไว้ ตามด้วยการนำ พด.7 มาละลายน้ำ 15นาที นำมาหมักรวมทั้งหมดในถัง หมักนานอย่างน้อย 20 วัน สามารถนำไปใช้ได้ น้ำหมัก 1 ขวดลิโพต่อน้ำ 20 ลิตร จะช่วยกำจัดป้องกันไล่แมลงทุกชนิด

การเพาะเห็ดขอนขาว

เกษตรอินทรีย์...พลิกฟื้นวิถีไทย ทางเลือก ...ทางรอดของเกษตรกรไทย

เกษตรอินทรีย์...พลิกฟื้นวิถีไทย ทางเลือก ...ทางรอดของเกษตรกรไทย

        เกษตรอินทรีย์ เป็นการทำการเกษตรที่ไม่ใช้สารเคมีที่มนุษย์ทำขึ้น แต่ใช้วัสดุธรรมชาติแทน เพื่อลดพิษภัย
ที่เกิดจากสารเคมีทั้งในดิน น้ำ อากาศ และผลผลิตซึ่งเกษตรอินทรีย์เป็นระบบการผลิตที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อม
รักษาสมดุลธรรมชาติและหลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ที่อาจก่อให้เกิดมลพิษในสภาพแวดล้อมรวมถึงการนำ
ภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์

การผลิตน้ำสกัดชีวภาพ
สูตร..พืชอวบน้ำ
วัสดุอุปกรณ์
1. ถังพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท
2. กากน้ำตาล
3. พืชผัก ผลไม้อวบน้ำ
4. ของหนัก เช่น อิฐบล็อก หรือ ก้อนหิน
5. สารเร่งการย่อยสลาย (พด.2) หรือจุลินทรีย์อื่นๆ
วิธีทำ
1. นำพืชผักผลไม้มาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับกากน้ำตาลในภาชานะที่เตรียมไว้ในอัตราพืช
   3 กิโลกรัม/กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
2. นำของหนักวางทับบนพืชที่หมักปิดฝาถังให้สนิทประมาณ 7-10 วัน
3. จะมีของเหลวสีน้ำตาลไหลออกมา คือ น้ำสกัดชีวภาพ กรอกใส่ขวด ปิดฝาให้สนิทเก็บไว้ในที่ร่ม
4. กากที่เหลือจากการหมักสามารถนำไปฝังเป็นปุ๋ยบริเวณทรงพุ่มของต้นไม้ได้

วิธีใช้
   ฉีดพ่น    อัตรา 1 : 500-1,000
   ราดโคน  อัตรา 1 : 200-500

หมายเหตุ   ควรใช้ขณะที่มีอากาศเย็น
การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

สูตร...ปลาหมัก
วัสดุอุปกรณ์
1. ถังหมักที่มีฝาปิดสนิท
2. กากน้ำตาล 30 กิโลกรัม
3. ปลาสด 40 กิโลกรัม
4. น้ำสะอาด 100 ลิตร
5. สารเร่งการย่อยสลาย (สาร พด.2 หรือจุลินทรีย์อื่นๆ)
วิธีทำ
1. นำกากน้ำตาล 30 กิโลกรัม ผสมน้ำ 100 ลิตร   ใส่น้ำในถังพลาสติกขนาดบรรจุ 200 ลิตร คนให้เข้ากัน   เติมสารเร่งการย่อยสลาย (จุลินทรีย์) 10 ลิตร
  (1 ซอง ผสมน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 20 นาที)
2. นำปลาสด 40 กิโลกรัม ล้างให้สะอาด   เทลงถังพลาสติกที่เตรียมไว้
3. คนให้เข้ากันอีกครั้งปิดฝาให้สนิทหมักทิ้งไว้ 5-7 วัน   (จะเกิดปฏิกิริยา มีแรงดันอากาศ มีฟองลอยบนผิวน้ำ   มีลักษณะสีน้ำตาลอ่อนถึงแก่) คลายฝาออกเล็กน้อย

     ขบวนการย่อยสลายอยู่ในช่วง 15-20 วันหลังจากหมักปลา ลักษณะของน้ำสกัดชีวภาพที่ใช้ได้ต้องไม่มีเศษปลาหลงเหลืออยู่ และลักษณะน้ำมีสีน้ำตาลเข้มมีฝ้าหรือใยสีขาวลอยบนผิวน้ำ
มีกลิ่นหอม เก็บไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเท

วิธีใช้
     ราดโคน  อัตรา 1 : 50-100

การผลิตปุ๋ยหมักแห้งทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี
วัสดุอุปกรณ์
1. มูลสัตว์ 1 ปีบ
2. แกลบดำ 1 ปีบ
3. รำละเอียด 1 กิโลกรัม
4. เศษพืชหรือวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น แกลบ กากอ้อย ขี้เลื่อย เลือกถั่วลิสง เปลือกถั่วเขียว
   ขุยมะพร้าว ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่ง 1 ปีบ
5. น้ำกสัดชีวภาพ 2 ช้อนแกง
6. กากน้ำตาล 2 ช้อนแกง
7. น้ำประมาณ 10 ลิตร (ปรับลดหรือเพิ่มได้ตามความเหมาะสม)

วิธีทำ

1. นำวัสดุต่างๆ มาผสมคลุกเคล้ากัน
2. นำส่วนผสมของน้ำสกัดชีวภาพกับน้ำตาลราดบนกองวัสดุปุ๋ยหมักคลุกให้เข้ากัน ให้ปุ๋ยหมักได้รับความชื้น
   พอหมาดๆ อย่าให้แห้งหรือชื้นเกินไป (ใช้มือกำดู)
3. เกลี่ยกองปุ๋ยหมักบนพื้นซีเมนต์หนาประมาณ 1-2 คืบ คลุมด้วยกระสอบป่านทิ้งไว้ 7 วัน ตรวจดูความร้อน
   ในวันที่ 2-3 ถ้าร้อนมากต้องเอากระสอบที่คลุมออกแล้วหลับกองปุ๋ยเพื่อระบายความร้อนปุ๋ยหมักชีวภาพที่ดี
   จะมีกลิ่นหอม มีใยสีขาวของเชื้อราเกาะกันเป็นก้อนกลม

วิธีใช้
     ควรใช้ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน โดยผสมคลุกเคล้าดินในแปลงก่อน และควรหมักดินทิ้งไว้
ประมาณ 7 วันก่อนจึงเริ่มลงมือปลูกพืช

อัตราการใช้
    พืชผัก 1 กิโลกรัม/ตารางเมตร
    ไม้ยืนต้น พืชสวน 3-5 กิโลกรัม/ต้น

หมายเหตุ
  
    ในการใช้ปุ๋ยหมักแห้งอินทรีย์ชีวภาพให้ได้ผลดีนั้นหลังจากการหว่านหรือคลุกผสมปุ๋ยหมักกับดินแล้วควรคลุมดิน
ด้วยฟาง เศษหญ้า หรือเศษใบไม้แห้ง จากนั้นใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพรดราดโคนในอัตราส่วน 1 : 50 - 100 จะช่วยให้ดินร่วนซุย เร่งการแตกรากของพืชได้

ติดต่อ-สอบตามข้อมูลได้ที่ : ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ   E_mail :kkbrdsc@yahoo.com