ภาพ ลักษณะแปลงปลูกผักคะน้าอินทรีย์ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
จากการสัมภาษณ์เกษตรกรจำนวน 3 ราย คือ สวนร่วมสมัย ตำบลเขาวงกต อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี คุณสุนันท์ ชมดี เขาค้อทะเลภู อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และคุณรัศภัธ ยิ่งสุขสันติสุข อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง สรุปวิธีการปลูกและการดูแลรักษาผักคะน้าอินทรีย์ได้ดังนี้
การเตรียมดินในแปลงเพาะกล้า
แปลงเพาะกล้าควรไถและพรวนดินให้ละเอียด ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคในดิน หลังจากนั้นจึงคลุกเคล้าด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว ในอัตรา 2-4 ตัน/ไร่ พรวนย่อยดินให้ละเอียดโดยเฉพาะผิวหน้าดิน เพื่อป้องกันมิให้เมล็ดซึ่งมีขนาดเล็กตกในดินลึกเกินไป
การเพาะกล้า
หลังจากเตรียมแปลงเพาะกล้าแล้ว หว่านเมล็ดให้กระจายสม่ำเสมอทั่วแปลง แล้วกลบด้วยปุ๋ยหมักหนา 0.5-1.0 เซนติเมตร เสร็จแล้วรดน้ำให้ชุ่มคลุมด้วยฟางบางๆ เมื่อต้นกล้าอายุได้ประมาณ 15-20 วัน จึงย้ายลงแปลงปลูก
การเตรียมดินแปลงปลูก
ทำการเตรียมแปลงปลูกเช่นเดียวกับแปลงเพาะกล้า ยกแปลงปลูกสูงประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 1เมตร ยาวตามความยาวของพื้นที่ จัดระยะปลูก 50x50 เซนติเมตร (แถวคู่) โดยขุดหลุมลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม 200 กรัม/ หลุม แล้วจึงย้ายกล้าลงปลูก และรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
การใส่ปุ๋ยหลังจากปลูกคะน้าแล้ว 20 วันควรใส่ปุ๋ยหมักครั้งแรก และใส่ปุ๋ยหมักครั้งที่ 2 เมื่อคะน้ามีอายุ 30 วันหลังปลูก โดยใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 300-500 กิโลกรัม/ไร่ โดยโรยข้างต้นคะน้าห่างประมาณ 15 เซนติเมตร หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องพรวนกลบปุ๋ยลงดิน และควรฉีดพ่นปุ๋ยน้ำชีวภาพ (จากพืชและสัตว์) ร่วมกับฮอร์โมนไข่อัตรา 50-100 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
การให้น้ำ ควรรดน้ำเช้าเย็น คะน้าเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ เพราะต้นคะน้ามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้นคะน้าที่ขาดน้ำจะชะงักการเจริญเติบโต
การจัดการศัตรูผักคะน้า
การกำจัดวัชพืชในแปลงคะน้าทำได้โดยการถอน หรือใช้จอบพรวนดินกำจัดวัชพืช ควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในระยะแรก ๆ มีความจำเป็นมาก เนื่องจากต้นพืชประธานต้องเติบโต แข็งแรง สามารถต่อสู้ แข่งขันกับวัชพืชต่อไปได้
แมลงศัตรูที่สำคัญของคะน้า ได้แก่
1. หนอนกระทู้ผัก(Spodoptera litura) มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีกได้แก่ หนอนกระทู้ยาสูบ หนอนกระทู้ผักอื่น ๆ เช่น กวางตุ้ง กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ ผักกาดขาวปลี ผักกาดหัว หนอนกระทู้ผัก มีลำตัวอ้วนป้อม มีจุด สีดำใหญ่ตรงปล่องที่ 3 แม่ผีเสื้อจะวางไข่ เป็นกลุ่มปกคลุมด้วยขนสีฟางข้าว กลุ่มไข่ มีอายุ 3-4 วันก็จะฟักเป็นตัวอ่อนอยู่รวมกับเป็นกลุ่ม แทะกินผิวใบก่อน ต่อมาจึงแยกย้ายกันไปกัดกินใบ เมื่อพ้นวัยที่ 2 ตัวหนอนโตเต็มที่มีขนาด 3-4 เซนติเมตร กัดกินใบคะน้าอยู่ 10-14 วัน จึงเริ่มเข้าดักแด้ในดินระยะดักแด้ 7-10 วัน ก็เจริญเป็นผีเสื้อขนาดกลางเมื่อกางปีก กว้าง 3-3.5 เซนติเมตร ปีกสีน้ำตาลปีกคู่หน้ามีเส้นสีเหลืองพาดหลายเส้น พบทั่วไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย ระบาดทั่วไปไม่จำกัดฤดูปลูก
ภาพที่ 2 ภาพหนอนกระทู้ผัก
เกษตรกรสามารถป้องกันกำจัด โดยหมั่นตรวจแปลงผักคะน้า ถ้าพบกลุ่มไข่ ให้รีบจับทำลาย เพราะกลุ่มไข่ 1 กลุ่ม จะฟักเป็นหนอน ได้หลายร้อยตัว เนื่องจากการผลิตคะน้าอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี ฉีดพ่นแต่จะปล่อยให้มีแมลงธรรมชาติชนิดอื่น ๆ มาควบคุมกันเอง โดยในปีแรก ๆ ที่เริ่มโครงการปลูก ผักอินทรีย์ ผักจะเสียหายมาก ได้ผลผลิตน้อย แต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป แมลงธรรมชาติในแปลงผักจะมีปริมาณมากขึ้น โดยพบว่า ผักคะน้า มีใบแหว่งหรือขาดเป็นรูพรุนลดลง สอดคล้องกับรายงานของ สำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชนที่รายงานว่า หนอนกระทู้ผัก มีศัตรูธรรมชาติเป็นพวกแตนเบียนหนอน ซึ่งมีขนาดเล็กมาก คอยทำลายอยู่ ถ้าเกษตรกรไม่ฉีดพ่นสารเคมี ก็จะทำให้ศัตรูธรรมชาติเหล่านี้ มีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันมวนตัวห้ำจำพวกมวนพิฆาตก็จะเพิ่มปริมาณคอยทำลายหนอนกระทู้ผักอีกทาง หนึ่งด้วย
การป้องกันกำจัดแมลงเหล่านี้ เกษตรกรจะไม่ใช้สารเคมีฆ่าแมลงฉีดพ่น แต่จะปล่อยให้มีแมลงธรรมชาติชนิดอื่น ๆ มาควบคุมกันเอง โดยในปีแรก ๆ ที่เริ่มโครงการปลูกผักอินทรีย์ ผักจะเสียหายมาก ได้ผลผลิตน้อย แต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป แมลงธรรมชาติในแปลงผักจะมีปริมาณมากขึ้น โดยพบว่า ผักคะน้ามีใบแหว่งหรือขาดเป็นรูพรุนลดลง
ภาพที่ 3 แสดงหนอนกระทู้กัดกินใบคะน้า
2. หนอนใยผัก(Diamond back moth) ชื่อวิทยาศาสตร์: Plutella xylostella (Curt.)
พืชอาหาร: พืชตระกูลกะหล่ำทุกชนิด
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. ใช้วิธีกล คือ เก็บตัวหนอนทำลาย
2. อนุรักษ์แตนเบียนไข่ของหนอนใยผักในแปลง
3. ใช้เชื้อ Bt (Bacillus thrurigiensis) ควรรีบใช้เมื่อพบไข่หรือหนอนวัย 2-3 จะได้ผลดี
4. ฉีดพ่นด้วยสารสกัดสะเดา
3. หนอนคืบผัก/หนอนคืบกะหล่ำ(Cabbage looper) ชื่อวิทยาศาสตร์: Trichoplusia ni Hubner
พืชอาหาร: กะหล่ำดาว กะหล่ำปลีหัวใจ ผักกาดขาวปลี บร็อคโคลี่ ผักกาดหางหงส์
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. ใช้วิธีกล คือ เก็บตัวหนอนทำลาย
2. ใช้เชื้อ Bt (Bacillus subtilis) ควรรีบใช้เมื่อพบไข่หรือหนอนที่เพิ่งฟัก
3. ฉีดพ่นด้วยสารสกัดสะเดา
4. หนอนกระทู้หอม (Beet armyworm) ชื่อวิทยาศาสตร์: Spodoptera exigua Hubner
พืชอาหาร: สามารถทำลายพืชได้หลายชนิด เช่น พืชตระกูลกะหล่ำ พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. ใช้วิธีกล โดยเก็บกลุ่มไข่ และตัวหนอนกระทู้หอมที่พบในแปลงทำลายจะเป็นการช่วยลดการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2. ใช้เชื้อ Bt (Bacillus subtilis) หรือใช้เชื้อไวรัส NPV ของหนอนกระทู้หอมฉีดพ่น
3. ฉีดพ่นด้วยสารสกัดสะเดา
5. หนอนเจาะยอดกะหล่ำ (Cabbage webworm) ชื่อวิทยาศาสตร์: Hellula undalis F.
พืชอาหาร: พืชตระกูลกะหล่ำ
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. กำจัดเศษซากพืช และขุดดินตากแดดเพื่อกำจัดดักแด้
2. ฉีดพ่นเชื้อ Bt (Bacillus subtilis) เมื่อพบไข่และตัวหนอน
3. ฉีดพ่นด้วยสารสกัดสะเดา
6. ด้วงหมัดผัก / ด้วงหมัดกระโดด(Vegetable flea beetle) ชื่อวิทยาศาสตร์: Phyllotreta sinuate Step. (ชนิดแถบลาย) Phyllotreta chontalica Dueriv. (ชนิดสีน้ำเงิน)
พืชอาหาร: พืชตระกูลกะหล่ำ ผักกาดหัว ผักกาดฮ่องเต้ ผักกาดที่มีกลิ่นฉุน
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. ทำการกำจัดวัชพืชในแปลงหรือบริเวณแปลง จะช่วยบรรเทาการระบาดมิให้รุนแรงมากได้ เพราะด้วงหมัดอาศัยเป็นแหล่งกำเนิดและเจริญเติบโตเพิ่มปริมาณขึ้นอยู่ตลอดเวลา และรวมทั้งการกำจัดต้นพืชที่เก็บเกี่ยวไม่หมดออกไป การไถ พรวน หรือตากดินหลังไถ ก็จะช่วยทำลายตัวอ่อน และดักแด้ที่อยู่ในดินได้
2. ปลูกพืชชนิดอื่นที่ไม่ใช่พืชอาหารด้วงหมัดผักสลับหมุนเวียน
3. หากมีการปลูกในพื้นที่ซ้ำ ใช้ไส้เดือนฝอย (Steinernema thailandensi) ฉีดพ่นหรือราดบนแปลงปลูกหลังจากย้ายกล้าเพื่อทำลายตัวหนอนที่อยู่ในดิน
4. ใช้เชื้อแบคทีเรีย Bacillus thrurigiensis
7. หนอนผีเสื้อกะหล่ำ / หนอนผีเสื้อขาว(Cabbage white) ชื่อวิทยาศาสตร์: Pieris spp.
พืชอาหาร: พืชตระกูลกะหล่ำ
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. ใช้วิธีกล โดยเก็บกลุ่มไข่ ตัวหนอน ผีเสื้อตัวเต็มวัยออกทำลาย
2. ฉีดพ่นเชื้อ Bt Bacillus thrurigiensis เมื่อหนอนเพิ่งฝักออกจากไข่
3. ฉีดพ่นด้วยสารสกัดสะเดา
8. เพลี้ยอ่อน(Aphid) ชื่อวิทยาศาสตร์: Myzus percicae (Sulzer) Lipaphis erysimi (Kaltenbach)
พืชอาหาร: พืชตระกูลกะหล่ำ พืชตระกูลถั่ว พืชตระกูลแตง
การจัดการแมลงชนิดนี้ ทำได้โดย
1. การอนุรักษ์แมลงตัวห้ำ เช่น ด้วงเต่า แมลงช้างปีกใส ปล่อยในแปลง หรือแตนเบียนเพลี้ยอ่อน
2. ฉีดพ่นสารสกัดสะเดาหรือน้ำหมักยาสูบ
การเก็บเกี่ยว
คะน้ามีอายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 45-55 วันหลังปลูก ซึ่งเป็นคะน้าที่โตเต็มที่ วิธีการตัดโดยใช้มีดคมตัดที่โคนต้นคะน้าสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตรการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว บรรจุภัณฑ์และ/หรือ ช่องทางจำหน่าย
การเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยว เกษตรกรยังขาดความรู้อยู่พอสมควร แต่ที่ปฏิบัติอยู่เก็บได้ไม่นาน ส่วนใหญ่ ไม่เน้นเก็บไว้นาน เก็บเสร็จล้างให้สะอาด บรรจุถุงพลาสติก เจาะรู ถุงละ 5 กิโลกรัม หรือ 10 กิโลกรัม แล้วขนส่งตลาดทั่วไป ซึ่งเป็นแผงประจำของผักอินทรีย์ ระยะทางขนส่งไม่ไกลจากแหล่งผลิตนัก ไม่ได้ไปวางขายตาม Green net เนื่องจากปริมาณที่ปลูกมีไม่มาก การขนส่งไกล อาจไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะถ้าผลผลิตเหลือก็จะเป็นการสูญเปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น